เปลือกผักผลไม้ บางชนิดที่เราปอกทิ้ง
ขอบอกให้ชัด ๆ ว่าที่จริงแล้วอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ ไม่ลิ้มลองสักนิดจะเสียดาย
เรามักจะคิดว่าผักผลไม้ที่เราทานกันอยู่ทุกวันนี้มีคุณประโยชน์อยู่ที่เนื้อในของผักผลไม้เท่านั้น
และปอกเปลือกทิ้งเพราะกลัวเรื่องสารพิษตกค้าง
โดยที่เราไม่ทราบว่าเราได้ทิ้งคุณค่าทางอาหารที่เผลอ ๆ จะมีมากกว่าเนื้อที่เรารับประทานกันเสียอีก
อย่าให้คุณค่าเหล่านั้นเสียไปโดยที่เรายังไม่ทันได้รู้ถึงสิ่งดี ๆ
ที่มีในเปลือกกันดีกว่า ลองไปดูคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณเด็ด ๆ
ของเปลือกผักผลไม้ 10 ชนิดนี้ที่เราหยิบมาฝากกันค่ะ
อาจจะทำให้คุณเปลี่ยนใจหันมารับประทานเปลือกไปพร้อมกับ ๆ เนื้อกันมากขึ้นก็ได้นะ
แอปเปิล
ใครที่ยังปอกเปลือกแอปเปิลก่อนรับประทานอยู่รีบเลิกทำเดี๋ยวนี้เลยค่ะ
เพราะจริง ๆ แล้วเปลือกแอปเปิลมีประโยชน์พอ ๆ กับเนื้อแอปเปิลเลยนะ
ทั้งอุดมไปด้วยไฟเบอร์ในประมาณครึ่งหนึ่งของไฟเบอร์ที่ได้รับจากแอปเปิลทั้งผล
และสารฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารสำคัญในการดูแลสุขภาพหัวใจ
โดยเจ้าสารฟลาโวนอยด์สามารถช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตได้
นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค และโพแทสเซียม
ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง อย่ามัวแต่กลัวสารเคมีตกค้างในเปลือกกันเลยค่ะ
ถ้าไม่มั่นใจในความสะอาดก็ล้างซ้ำหลาย ๆ ครั้งก่อนรับประทาน
หรือแช่ด่างทับทิมจะดีกว่านะ
จะได้ไม่สูญเสียคุณค่าทางอาหารโดยไม่จำเป็นจากการปอกเปลือกทิ้งค่ะ
เปลือกแตงโม
ไม่ว่าจะเป็นตรงส่วนที่เป็นเนื้อขาว ๆ
หรือตัวเปลือกสีเขียวของแตงโม ล้วนแต่เป็นส่วนที่ไม่ควรทิ้งอย่างยิ่ง แม้หลาย ๆ
คนจะคิดว่าเป็นส่วนที่ไม่ควรรับประทานเพราะอาจจะมีสารเคมีตกค้าง ทั้ง ๆ
ที่ส่วนของเปลือกอุดมไปด้วยไลโคปีน (Lycopene)
เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) และซิทรูลีน
(Citrulline) ซึ่งเป็นสารพฤกษเคมีที่เช่นเดียวกับเนื้อแตงโม
โดยซิทรูลีนนั้นมีฤทธิ์ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด และช่วยลดความดันโลหิต
และบรรเทาอาการของโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจได้
มะเขือม่วง
เปลือกสีม่วงเข้มของมะเขือม่วง
นอกจากจะช่วยเพิ่มสีสันในอาหารแล้วก็ยังเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีชื่อว่านาซูนิน
หนึ่งในสารกลุ่มแอนโธไซยานินที่มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
อีกทั้งยังช่วยในการทำงานของสมอง และสามารถช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
ไม่เพียงเท่านั้น
ในเปลือกมะเขือม่วงยังอุดมไปด้วยกรดคลอโรเจนิกที่สามารถช่วยป้องกันการอักเสบ
และส่งเสริมความต้านทานต่อกลูโคสในร่างกาย ทำให้ความเสี่ยงโรคเบาหวานลดลง
แตงกวา
ใครอยากมีสุขภาพผมและเล็บที่แข็งแรงฟังทางนี้
คราวหน้าที่รับประทานแตงกวาอย่าปอกเปลือกเป็นอันขาด
เพราะเจ้าแตงกวาที่อยู่เป็นผักเคียงในอาหารจานต่าง ๆ นั้น
บริเวณเปลือกเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุซิลิก้า (Silica)
ซึ่งช่วยสร้างเสริมสุขภาพผมและเล็บให้แข็งแรงเงางาม
ไม่เพียงเท่านั้น ส่วนเปลือกที่หลาย ๆ คนชอบคิดว่าขมน่ะจริง ๆ
มีไฟเบอร์สูงไม่เบาเลย และใครที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายเปลือกแตงกวาก็ช่วยได้ค่ะ
แครอท
อยากให้รู้ว่าคุณค่าทางอาหารแบบเน้น ๆ
ของแครอทน่ะไม่ได้อยู่แค่ในเนื้อแครอทเท่านั้น
ในส่วนของเปลือกเองก็มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่ไม่น้อย
นับตั้งแต่เบต้าแคโรทีนที่ช่วยบำรุงสายตา และไฟเบอร์ที่ดีต่อลำไส้ อีกทั้งรสชาติก็ไม่แตกต่างจากเนื้อแครอทอีกด้วย
คราวหน้าถ้านำแครอทมารับประทานก็ลองล้างให้สะอาดแล้วนำมาปรุงเลย
หรือถ้าจะรับประทานสด ๆ ก็ยิ่งดีไปกันใหญ่
มันฝรั่ง
มันฝรั่งเป็นพืชอีกชนิดที่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก
แต่ก็ต้องนำไปทำให้สุกก่อนนะ โดยเปลือกมันฝรั่งนั้นเต็มไปด้วยไฟเบอร์ และสารอาหารอย่างวิตามินเค
โพแทสเซียม ทองแดงและธาตุเหล็ก ยิ่งถ้านำมันฝรั่งมาทำมันบดทั้งเปลือกด้วยละก็
ก็ยิ่งทำให้ได้รสสัมผัสที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น
กล้วย
ถ้าพูดถึงเปลือกกล้วยหลาย ๆ
คนก็อาจจะคุ้นเคยกันดีเพราะว่าในอาหารบางอย่าง เช่น แหนมเนือง ก็นำกล้วยดิบทั้งเปลือกมาฝานรับประทานเป็นเครื่องเคียง
แต่ถ้าไม่ชอบรับประทานกล้วยดิบละก็
รับประทานเปลือกกล้วยตอนที่กล้วยสุกก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน
เพราะเปลือกกล้วยนั้นก็มีคุณค่าทางอาหารทัดเทียมกับเนื้อกล้วยเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 6 วิตามินบี 12 แมกนีเซียม และโพแทสเซียม อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่มีสูงกว่าในเนื้อกล้วย
สามารถช่วยระบบขับถ่าย นอกจากนี้ในเปลือกกล้วยก็ยังมีสารทริปโตเฟน (Tyrptophan) ที่ช่วยสร้างเสริมสารเซโรโทนินในร่างกาย
ส่งผลทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้าได้อีกด้วยล่ะ
ส้ม
ส้ม มะนาว เลมอน
อยากจะบอกว่าประโยชน์ลับ ๆ
ของผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเหล่านี้ก็คือส่วนเปลือกมีวิตามินซีสูงกว่าเนื้อในถึง 2
เท่า ! แถมยังอุดมด้วยสารไรโบฟลาวิน วิตามินบี 6 แคลเซียม แมกนีเซียม
และโพแทสเซียม นอกจากนี้สารฟลาโวนอยด์ที่อยู่ในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและต้านการอักเสบอีกด้วย
วิธีรับประทานก็ไม่ต้องรับประทานสด ๆ ก็ได้ค่ะ เพราะถ้ารับประทานสด ๆ
แล้วอาจจะทำให้รู้สึกขม
ลองนำไปแปรรูปแบบอบแห้งหรือเชื่อมเอาไว้รับประทานเป็นของว่างก็ดีไม่หยอก
หรือจะนำไปขูดละเอียดโรยบนสลัดก็ได้ประโยชน์ไม่ต่างกัน
ฟักทอง
เปลือกฟักทองแข็ง ๆ
อย่าเพิ่งคิดว่ารับประทานไม่ได้เชียวนะ เพราะเจ้าเปลือกฟักทองสีเขียว ๆ
นั้นเมื่อนำไปทำให้สุกแล้วก็สามารถรับประทานได้เหมือนกับเนื้อฟักทองปกติ
แถมยังมีสรรพคุณดี ๆ เยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต บำรุงอวัยวะต่าง ๆ
และช่วยสร้างเสริมส่วนที่สึกหรอ
เห็นไหมว่ารับประทานเปลือกเข้าไปด้วยก็ได้ประโยชน์เพิ่มอีกเยอะเลย
หัวบีท
หัวบีท
ซูเปอร์ฟู้ดอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด การปอกเปลือกทิ้งไปเป็นความคิดที่ผิดเลยล่ะ
เนื่องจากในเปลือกของหัวบีทมีคุณค่าทางอาหารมากมายอย่างวิตามินเอ
ซึ่งมีสูงเป็นสองเท่าของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี
วิตามินบี 6 แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม และธาตุเหล็ก ของดี ๆ ทั้งนั้น
ทิ้งไปล่ะเสียดายแย่
มีแต่ประโยชน์ดี ๆ ทั้งนั้นเลยใช่ไหมล่ะ
ใครที่ไม่เคยจะรับประทานเปลือกของผักผลไม้เหล่านี้ก็ไม่ต้องเสียดายค่ะ
คราวหน้าก็ลองรับประทานแบบทั้งเปลือกดู แม้เปลือกของผักผลไม้บางชนิดอาจจะขมไปนิด
แต่เพื่อประโยชน์ที่มากกว่าก็คุ้มนะเออ อ้อ ! แล้วก็อย่าลืมล้างให้สะอาดนะ
จะได้ไม่เจอกับสารพิษตกค้างในเปลือกผักผลไม้มาก่อกวนสร้างปัญหาสุขภาพในอนาคต
ที่มา : http://health.kapook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น